1. ให้ผิวอิ่มน้ำ
ทราบหรือไม่คะว่าผิวมีโอกาสสูญเสียความชุ่มชื้นได้ตลอดเวลาถึงแม้ว่าคุณจะชะโลมด้วยมอยส์เจอไรเซอร์มากแค่ไหนแล้วก็ตาม
แต่ให้รู้ไว้เถอะค่ะว่ายังไม่เพียงพอหรอกดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มระดับความชุ่มชื้นแก่ผิวยิ่งขึ้นจึงควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละประมาณ
1-2 ลิตรเป็นอย่างน้อย
2. ขยับแข้ง
ขยับขา
อย่าคิดว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก
ดังนั้นจงลุกขึ้นมาว่ายน้ำ วิ่ง เต้น แอโรบิค
หรือทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่คุณชื่นชอบกันดีกว่า
เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตแล้วยังทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและสดใสได้อีกด้วย
3. ให้อาหารผิว
ให้ผิวของคุณได้รับประโยชน์จากวิตามินบ้างด้วยการรับประทานผักใบเขียว สลัด และผลไม้ ทุกวัน
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัส
คุณทราบเคล็ดลับการดูแลผิวแล้วใช่ไหมคะ ถ้าใช่ก็คงจะทราบดีว่ามือของเรานั้นไม่ได้สะอาดอย่างที่คิด การที่ใช้มือลูบหรือจับใบหน้าทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามโดยที่ยังไม่ได้ล้างมือให้สะอาดเสียก่อนนั้นมีโอกาสที่ผิวของคุณจะสัมผัสกับเชื้อโรคที่ติดอยู่กับมือหรือเล็บได้
5. พักผ่อนผิว
ผิวคุณจะไม่สดใสและดูหดหู่ยิ่งขึ้นถ้าไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างดีในยามหลับ
ทางที่ดีที่สุดคือ ควรพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 8 ชั่วโมง
เพื่อที่ตื่นมาแล้วคุณจะได้พบกับใบหน้าที่ดูอิ่มเอิบและเปล่งปลั่งขึ้น
6. ผิวใส
นางแบบชั้นแนวหน้ายังไม่กล้าปล่อยให้ผิวของตัวเองต้องตกอยู่ภายใต้เมคอัพที่หนาเตอะได้ทั้งวันเลย
คุณก็เช่นกันนะคะควรเช็ดและล้างเครื่องสำอางที่แต่งมาทั้งวันออกให้หมดเพื่อป้องกันสิ่งที่อาจจะตกค้างอยู่บนผิวซึ่งอาจก่อให้เกิดสิวได้
7. เผชิญความจริง
อย่าลืมว่าผิวหน้าของคุณช่างแสนละเอียดอ่อนเมื่อเทียบกับผิวกาย
ดังนั้นการเลือกใช้โลชั่นทาผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์จึงต้องมีความละเอียดอ่อนไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองตามไปด้วย
8. ทรีทเม้นท์ผิว
เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะทำให้ผิวของคุณดูหมองคล้ำ
ดังนั้นลองทำทรีทเม้นท์เพื่อผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยให้ผิวขาวขึ้นและเปล่งประกายสดใสยิ่งขึ้น
9. ตามใจผิว
ผิวของคุณต้องทำงานหนักเพื่อปกป้องคุณจากเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่คอยรบกวนอยู่เสมอ
ดังนั้นจึงควรให้การดูแลและเอาใจใส่ผิวให้มากขึ้นโดยการทาครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณทุกวัน
ผิวดีๆจะได้อยู่กับคุณนานๆ ยังไงล่ะคะ
::::::ขอขอบคุณข้อมูลจาก pancosmetic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น